วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การเกิดถ่านหิน


การเกิดถ่านหิน
เมื่อประมาณ 350 ถึง 280 ล้านปีในอดีตพืชต่างๆที่ตายแล้วจะทับถมและเน่าเปื่อยผุพังอยูใต้แหล่งน้ำและโคลนตม เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวโลก เช่นแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ซากพืชเหล่านี้จะจมลึกลงไปในผิวโลกภายใต้ความร้อนและความดันสูง ซากพืชเหล่านี้ซึ่งอยู่ในภาวะที่ขาดหรือมีออกซิเจนจำกัดจึงเกิดการย่อยสลายอย่างช้าๆ โครงสร้างหลักของพืชเป็นเซลลุโลส น้ำและลิกนินซึ่งสารเหล่านี้ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจนและออกซิเจน เมื่อถูกย่อยสลายให้มีโมเลกุลเล็กลงคาร์บอนจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีปริมาณคาร์บอนตั้งแต่ร้อยละ 50 โดยมวลหรือมากกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตรส่วนไฮโดรเจนและออกซิเจนจะเกิดเป็นสารประกอบอื่นแยกออกไป
ถ่านหินที่พบและนำมาใช้งาน สามารถจำแนกตามอายุการเกิดหรือปริมาณคาร์บอนที่เป็นองค์ประกอบให้ดังรูป
พีต เป็นถ่านหินในขั้นเริ่มต้นของกระบวนการเกิดถ่านหิน ซากพืชบางส่วนยังสลายตัวไม่หมดและมีลักษณะให้เห็นเป็นลำต้น กิ่งและใบ มีสีน้ำตาลจนถึงสีดำ มีความชื้นสูง เมื่อนำพีตมาเป็นเชื้อเพลิงจึงต้องผ่านกระบานการไล่ความชื้นหรือทำให้แห้งก่อน ความร้อนที่ได้จากการเผาพีตจะสูงกว่าที่ได้จากไม้ จึงนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อการให้ความร้อนในบ้านและผลิตไฟฟ้า ข้อดีของพีตคือมีปริมาณร้อยละของกำมะถันต่ำกว่าน้ำมันและถ่านหินชนิดอื่นๆ
ลิกไนต์ หรือถ่านหินสีน้ำตาล เป็นถ่านหินที่มีซากพืชเหลืออยู่เล็กน้อย ลักษณะเนื้อเหนียวและผิวด้าน มีปริมาณออกซิเจนและความชื้นต่ำแต่มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่าพีต เมื่อติดไฟมีควันและเถ้าถ่านมาก ลิกไนต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับให้ความร้อนและใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า
ซับบิทูมินัส เป็นถ่านหินที่เกิดมานานกว่าลิกไนต์มีสีน้ำตาลจนถึงสีดำ ลักษณะผิวมีทั้งผิวด้านและเป็นมัน มีทั้งเนื้อเนื้ออ่อนร่วนและแข็ง มีปริมาณออกซิเจนและความชื้นต่ำแต่มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่าลิกไนต์ ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าและงานอุตสาหกรรม
บิทูมินัส เป็นถ่านที่เกิดนานกว่าซับบิทูนัสมีเนื้อแน่นและแข็ง มีทั้งสีตาลจนถึงสีดำมีปริมาณออกซิเจนและความชื้นต่ำแต่มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่าซับทูมินัส ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการถลุงโลหะและนำมาใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงเคมีอื่นๆ ได้
แอนทราไซต์ เป็นถ่านหินที่มีอายุการเกิดนานที่สุดมีสีดำ ลักษณะเนื้อแน่น แข็งและเป็นมัน มีปริมาณออกซิเจนและความชื้นต่ำแต่มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่าถ่านหินชนิดอื่นจุดไฟติดยาก เมื่อติดไฟจะให้เปลวสีน้ำเงินจางๆ มีควันน้อยให้ความร้อนสูงและไม่มีสารอินทรีย์ระเหยออกมาจากการเผาไหม้
ปริมาณร้อยละของธาตุองค์ประกอบในถ่านหินชนิดต่างๆ เมื่อเทียบกับไม้แสดงในตาราง 12.1
ปริมาณขององค์ประกอบ ( ร้อยละโดยมวล )
ชนิดของสาร
C
H
O
N
S
ความชื้น
ไม้
50
6
43
1
-
*
พีต
50-60
5-6
35-40
2
1
75-80
ลิกไนต์
60-75
5-6
20-30
1
1
50-70
ซับบิทูมินัส
75-80
5-6
15-20
1
1
25-30
บิทูมินัส
80-90
4-6
10-15
1
5
5-10
แอนทราไซต์
90-98
2-3
2-3
1
1
2-5
การเผาไหม้คาร์บอน ( แกรไฟต์ ) จะให้พลังงานความร้อน 32.8 กิโลจูลต่อกรัม แต่การเผาไหม้ถ่านหินให้พลังงานความร้อนเฉลี่ยประมาณ 30.6 กิโลจูลต่อกรัม จึงกล่าวได้ว่าพลังงานความร้อนที่ได้จากการเผาไหม้ถ่านหินขึ้นอยู่กับปริมาณของคาร์บอนที่เป็นองค์ประกอบในถ่านหิน การเผาไหม้ถ่านหินแต่ละชนิดที่มีมวลเทากัน จะให้พลังงานความร้อนแตกต่างกันตามปริมาณคาร์บอนที่มีอยู่ในถ่านหินซึ่งมีลำดับจากน้อยไปมากดังนี้ แอนทราไซต์ บิทูมินัส ซับบิทูมินัส ลิกไนต์และพีต

แอลเคน แอลคีน แอลไคน์


ความหมายแอลเคน(CnH2n+2)แอลคีน(CnH2n)แอลไคน์(CnH2n-2)
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัวสารประกอบไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัวสารประกอบไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัว
ชนิดพันธะ
จำนวน C อะตอม
ในโมเลกุล
CH4 Methane
C2H6 Ethane
C2H4 Ethylene
C3H6 Propene
C2H2 Ethyne
C3H4 Propyne
สมบัติ
1.สถานะ
C1-C4 -ก๊าซ ,
C5-C17 - ของเหลว
C18 ขึ้นไป -ของแข็ง
เหมือนแอลเคนเหมือนแอลเคน
2.การละลายน้ำไม่ละลายไม่ละลายไม่ละลาย
3.ความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำน้อยกว่าน้ำน้อยกว่าน้ำ
4.การเผาไหม้ติดไฟให้เปลวไฟสว่าง ไม่มีเขม่าติดไฟให้เปลวไฟสว่าง แต่มีควันเขม่าติดไฟให้เปลวไฟสว่าง แต่มีควันเขม่ามากกว่า
5.จุดเดือดต่ำ
แต่ bp สูงตามจำนวน C อะตอมเพิ่ม
ต่ำ
เหมือนแอลเคน
ต่ำ
เหมือนแอลเคน
เรียงจุดเดือดจากมากไปหาน้อย แอลไคน์ > แอลเคน > แอลคีน
6.แรงยึดเหนี่ยว
ระหว่างโมเลกุล
แรงแวนเดอร์วาลส์แรงแวนเดอร์วาลส์แรงแวนเดอร์วาลส์
7.ทำปฏิกิริยา X2เกิดปฏิกิริยาการแทนที่ในภาวะ
แสงแดดหรือความร้อน
CH4 + X2 ---> CH3X + HX
เกิดปฏิกิริยาการเติม
เกิดทั้งในที่มืดและสว่าง
เกิดปฏิกิริยาการเติม
เกิดทั้งในที่มืดและสว่าง
8.ทำปฏิกิริยา H2ไม่เกิดเกิด แต่ใช้ Ni หรือ Pd หรือ Pt
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
เกิด ต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา
9.ทำปฏิกิริยา
KMnO4/H+
ไม่ทำทำให้เกิดสารพวกไกลคอล
ทำให้เกิดกรดอินทรีย์และอื่นๆ
10.เกิดพอลีเมอ-
ไรเซซัน
ไม่เกิดเกิดได้เฉพาะโมเลกุลเล็กๆ เท่านั้นเกิดยาก